Josh Mostel

ซอนนี(อดัม แซนด์เลอร์)ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยทำงานเก็นค่าผ่านทางแค่อาทิตย์ละวันเพราะได้เงินชดเชย$200,000 จากอุบัติเหตุ(คนขับรถทับขา)เลยเอาเงินไปซื้อหุ้นไมโครซอฟท์ ซอนนีเรียนกฎหมายแต่ไม่ยอมไปสอบทำให้พ่อของซอนนี(เป็นห่วงซอนนีมาก)ต้องคอยโทรมาด่าตลอด วาเนสซาแฟนของซอนนีขอเลิกเพราะซอนนีไม่มีอนาคต ซอนนีทำงานเซอร์ไพรซ์เลี้ยงส่งเควิน(จอน สจ๊วต)รูมเมทซอนนีที่กำลังจะย้ายไปทำงานที่ประเทศจีนพังทำให้คอร์รีนแฟนของเควินโกรธซอนนีมากจนเลย์ลาพี่สาวของคอร์รีนต้องช่วยพูด วันต่อมามีคนพาเด็กมาส่งที่บ้านซอนนีพร้อมจดหมายให้เควินรับอุปการะจูเลียน ซอนนีโทรหาเควินแต่เควินปฏิเสธว่าไม่เคยรู้จักแม่ของจูเลียน ซอนนีรับจัดการให้เพราะในจดหมายระบุว่าถ้าเควินไม่รับให้โทรหาสถานสงเคราะห์แต่บังเอิญวันนั้นเป็นวันหยุดซอนนีเลยต้องรับดูแลจูเลียน ซอนนีมีความคิดอยากรับเลี้ยงจูเลียนเพื่อแสดงให้วาเนสซาเห็นว่าตัวเองมีความรับผิดชอบ ซอนนีพาจูเลียนไปหาวาเนสซาที่บ้านแต่วาเนสซามีแฟนใหม่ที่แก่กว่ามาก

เพื่อที่จะสืบทอดอาณาจักรโรงแรมของพ่อ บิลลี่ เมดิสัน วัย 27 ลูกชายผู้แสนขี้เกียจและยังไม่บรรลุนิติภาวะทางความคิด จำเป็นที่จะต้องกลับเข้าเรียนตั้งแต่เกรด 1-12 ใหม่อีกครั้ง ภายใน 24 สัปดาห์ เพื่อสืบทอดธุรกิจครอบครัว

ดัดแปลงจากมินิซีรี่ส์เรื่องดังของบี บีซี มาเป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญฟอร์มดี กับเรื่องราวของนักข่าวหนังสือพิมพ์ที่ลงมือสืบสวนคดีฆาตกรรมหญิงสาว ที่มีความสัมพันธ์ชู้สาวกับวุฒิสมาชิกสภาคองเกรสชื่อดังรายหนึ่งด้วยตัวของเขาเอง

นักพนันหนุ่มที่กลับตัวกลับใจต้องกลับมาเล่นโป๊กเกอร์เงินเดิมพันสูงเพื่อช่วยเพื่อนจ่ายหนี้เงินกู้นอกระบบ

คู่รักหนุ่มสาว วอลเตอร์ ฟิลดิง (ทอม แฮงก์ส) และ แอนนา โครวลีย์ (เชลลีย์ ลอง) เริ่มหาบ้านใหม่สักหลังด้วยกัน แม้พวกเขาจะไม่มีเงินทุนมากนัก ต่อมาพวกเขาถูกนักต้มตุ๋นหลอกขายบ้านที่ดูสวยงาม ในราคาที่ถูกจนน่าขัน ทันทีที่ วอลเตอร์ กับ แอนนา ย้ายเข้าไปในบ้าน บ้านก็พังครืนลงมา ตั้งแต่บันได ไปจนถึงอ่างอาบน้ำที่ทะลุหลังคาลงมา และกระทั่งปล่องไฟก็ยังพังลงมาในบ้านอีกด้วย พวกเขาจึงจำต้องซ่อมแซมบ้านใหม่ทั้งหมด ก่อนที่โครงบ้านจะพังลงมาด้วย แต่การซ่อมบ้านครั้งนี้ก็เป็นหายนะที่ยิ่งใหญ่พอๆ กัน

เดเดเป็นพ่อแม่เพียงคนเดียวที่พยายามเลี้ยงดูเฟรด ลูกชายของเธอ เมื่อพบว่าเฟร็ดเป็นอัจฉริยะ เธอก็ตั้งใจแน่วแน่ที่จะทำให้แน่ใจว่าเฟร็ดมีโอกาสทั้งหมดที่เขาต้องการ และเขาจะไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากคนที่ลืมไปว่าสติปัญญาอันทรงพลังอย่างยิ่งของเขานั้นสะสมอยู่ในร่างกายและอารมณ์ของเด็ก.

มิตช์ (บิลลี่ คริสตัล) นักขายโฆษณาวิทยุ และผองเพื่อนของเขา ฟิล (แดเนียล สเติร์น) และ เอ็ด (บรูโน่ เคอร์บี้) กำลังเผชิญหน้ากับวิกฤติวัยกลางคนที่ไร้เป้าหมายในชีวิต พวกเขาเลยตั้งใจให้ของขวัญตัวเองด้วยการจัดทริปเปิดโลกใหม่ยาวไปตั้งแต่ นิว เม็กซิโก จนถึง โคโลราโด ที่นั่นพวกเขาได้พบกับ เคิร์ลลี่ (แจ็ค พาแลนซ์) คาวบอยประสบการณ์โชกโชน ที่นอกจากจะสอนให้พวกเขากลายเป็นคาวบอยฝีมือเยี่ยมแล้ว ยังทำให้พวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตใหม่ในโลกตะวันตกแห่งนี้ด้วย

พรสวรรค์ในการเล่นหมากรุกด้วยความเร็วเหลือเชื่อ ทำให้หนุ่มน้อยวัยเจ็ดขวบได้สัมผัสกับชัยชนะและชื่อเสียงในโลกของการแข่งขัน... ที่ค่อยๆ ริดรอนความสุขในวัยเยาว์ไปโดยไม่รู้ตัว

สติงโก นักเขียนหนุ่ม ย้ายไปบรู๊คลินในปี 1947 เพื่อเริ่มเขียนนวนิยายเรื่องแรกของเขา ขณะที่เขาเริ่มสนิทสนมกับโซฟีและนาธาน คนรักของเธอ เขาก็รู้ว่าเธอเป็นผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ภาพย้อนอดีตเผยให้เห็นเรื่องราวที่น่าสะเทือนขวัญของเธอ ตั้งแต่ความรุ่งเรืองก่อนสงครามจนถึงค่ายเอาช์วิทซ์ ในปัจจุบัน ความสัมพันธ์ของโซฟีและนาธานเริ่มคลี่คลายลงเรื่อยๆ เมื่อสติงโกใกล้ชิดกับโซฟีมากขึ้น และสภาพจิตใจที่เปราะบางของนาธานก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

ในภาพยนตร์ยุค 1940 ที่เต็มไปด้วยดาราดังคับคั่ง วูดดี อัลเลนได้ถักทอความทรงจำสุดฮาเข้ากับเรื่องขำๆ จากยุคทองของวิทยุมาทำเป็นภาพยนตร์เรื่องราวสนุกสนาน... และเป็นการไว้อาลัยอันแสนงดงามให้กับยุคที่ผ่านพ้นไปแล้ว