Howard Samuelsohn

รีเบ็คก้า บลูมวูด สาวขาช้อปในนิวยอร์ก ใฝ่ฝันจะทำงานกับนิตยสารแฟชั่นเล่มโปรด แต่เธอกลับได้ทำงานกับนิตยสารการเงินแทน

จอห์นแม็คลาฟลิน และ วิล จิเมโน สองตำรวจนิวยอร์คผู้ติดอยู่ในซากตึกเวิร์ดเทรด วันที่ 11 กันยายน 2001 เมื่อทั้งคู่ร่วมแรงร่วมใจต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด หลายเหตุการณ์ในวันที่คาดคิดไม่ถึงได้เกิดขึ้นผ่านสายตาของตำรวจคู่นี้, ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากของพวกเขา ผู้รอดชีวิต และหน่วยกู้ภัยในเมืองแห่งนี้

ปี 2012 ตามปฏิทินโบราณของชาวมายา ทำนายไว้ว่าโลกจะพบกับจุดจบซึ่งจะเกิดเหตุในช่วง 21 ธันวาคม 2012 แจ็คสัน เคอร์ติส (จอห์น คูแซค) และลูกอีกสองคน อยู่ระหว่างการเดินทางไปเยลโล่สโตน เมื่อความลับของอโพคาลิพส์ที่แสนอันตรายถูกเปิดเผย แจ็คสัน ต้องปกป้องครอบครัวของเขาจากแผ่นดินไหว ลาวาระเบิด สึนามิ และภัยธรรมชาติอื่นๆ เหมือนที่เผ่ามายันโบราณเคยวาดถึงวันแห่งอโพคาลิพส์ไว้

นายพลอลาดีน (ซาชา บารอน โคเฮน) ผู้ปกครองจอมเผด็จการฝั่งแอฟริกาเหนือ เขาเป็นผู้นำสาธารณรัฐวาดิยาที่ซึ่งเขาไม่ยอมให้ประชาธิปไตยมากล้ำกราย มันไม่มีวันเกิดขึ้นได้ตราบใดที่เขายังคงเป็นผู้นำอยู่ แต่เมื่อถูกเรียกตัวให้ไปเข้าร่วมการประชุมกับสหประชาชาติที่สหรัฐอเมริกา อลาดีนไม่รู้ว่าชีวิตและประเทศของเขาต้องกลับตาลปัตร อลาดีนถูกลักพาตัวและถูกโกนหนวดเคราจนไม่มีใครจำได้ไม่มีใครเชื่อว่าเขาคือผู้นำประเทศ เขาจึงกลายเป็นคนเร่ร่อนในถิ่นต่างแดนแต่อลาดีนได้รับความช่วยเหลือจาก โซอี (แอนนา ฟาริส) หญิงนักต่อสู้เคลื่อนไหวเพื่อสังคม เธอเสนองานและที่พักให้เขา ซึ่งเขาเองก็ไม่มีทางเลือกที่จะปฏิเสธเพราะเขาไม่ใช่นายพลอลาดีนคนเดิมที่ใครๆรู้จักอีกต่อไป แต่ในระหว่างที่อยู่อเมริกาอลาดีนพยายามสืบต้นตอว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังแล้วเขาก็ค้นพบว่าคนนั้นคือทาเมีย (เบน คิงสลีย์) ลุงผู้ไม่น่าไว้ใจของเขานั่นเอง งานนี้อลาดีนต้องทำทุกวิถีทางเพื่อยึดอำนาจคืนมาจากลุงให้ได้

The Greatest Showman จะพาเราเดินไปตามรอยเท้าของ พี.ที. บาร์นัม ตั้งแต่สมัยเป็นเด็กยากไร้ จนกระทั่งเริ่มสร้างคณะละครสัตว์คณะแรกของเขาเองขึ้นมาในนิวยอร์ก ในเรื่องนี้ แซค เอฟรอน จะมารับบทเป็น ฟิลลิป หุ้นส่วนทางธุรกิจของบาร์นัม ที่มาตกหลุมรักนักแสดงกายกรรมสาวคนหนึ่งที่รับบทโดย เซนดายา เดิมที The Greatest Showman จะถูกทำออกมาเป็นหนังอัตชีวประวัติดั้งเดิม

ชายคนหนึ่งมองเห็นอนาคตที่มีบุคคลหนึ่งได้วางแผนไว้สำหรับเขา – และเลือกที่จะต่อสู้เพื่อโชคชะตาของตัวเอง การต่อสู้กับ Adjustment Bureau อันทรงพลังทั่วทั้ง ใต้ และถนนในนิวยอร์ก เขาเสี่ยงต่อโชคชะตาอันยิ่งใหญ่ที่จะได้อยู่กับผู้หญิงคนเดียวที่เขาเคยรัก ..

แม้ว่าแอนโทนี่ โรเบลสจะเกิดมาโดยไม่มีขาขวาและเติบโตมาในครอบครัวที่เต็มไปด้วยการทารุณ เขาก็สามารถคว้าแชมป์มวยปล้ำระดับอุดมศึกษาดิวิชั่น 1 ได้สำเร็จ และสุดท้ายก็คว้าแชมป์ระดับประเทศมาครอง เอาชนะทีมระดับหัวแถวอย่างมหาวิทยาลัยไอโอวาที่เคยปฏิเสธเขา

อาชญากรในคุกที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวถูกหัวหน้าแก๊งบังคับให้วางแผนก่ออาชญากรรมครั้งใหญ่ร่วมกับแก๊งคู่แข่งที่โหดร้ายบนท้องถนนในแคลิฟอร์เนียตอนใต้

เป็นเรื่องราวของนายตำรวจแห่งบอสตัน โทมัส คราเว่น (เมล กิ๊บสัน) ที่นอกจากงานแล้ว ลูกสาวคือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต แต่ในคืนแรกหลังการกลับมาจากฝึกงานของลูกสาว เอ็มม่า(โบจานา โนวาโควิค) เธอก็ถูกสังหารต่อหน้าต่อตาเขา ความเสียใจและความรู้สึกผิด ทำให้เขาเริ่มสืบสวนเรื่องนี้หลังตำรวจสรุปว่าเป็นการยิงผิดตัว แต่เมื่อเขาสืบค้นไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งพบความลับที่เขาไม่เคยรู้เกี่ยวกับลูกสาว และบริษัทค้าอาวุธข้ามชาติกับรัฐบาล ยิ่งค้นเข้าไปเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งพบอันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ แต่งานนี้มีเพียงสิ่งเดียวที่เขาสนใจ นั่นคือการชำระหนี้แค้นให้กับการตายของลูกสาวอันเป็นที่รัก

The New Mutants ดัดแปลงมาจากการ์ตูนในชื่อเดียวกัน ที่สร้างสรรค์ขึ้นตั้งแต่ปี 1982 ด้วยฝีมือของ คริส แคลร์มอนท์ (Chris Claremont) และบ็อบ แมคลอด (Bob McLeod) เล่าเรื่องถึงมิวแทนส์วัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ที่เข้ามาฝึกฝนทักษะการเป็นฮีโร่ในจักรวาลมาร์เวลซึ่งใน Volume#3 นั้นได้มีการนำเสนอตัวละครปีศาจหมีออกมา วายร้ายตัวนี้เป็นหมียักษ์ที่มีพลังอันแข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อ มันสามารถดึงพลังในตัวออกมาได้จากอารมณ์ด้านมืดของมนุษย์ แถมมันยังมีพลังเทเลพอร์ตและพลังที่ทำให้จิตวิญญาณของมนุษย์เสื่อมทรามลงอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม จอช บูน (Josh Boone) ก็เคยได้ออกมาบอกแล้วว่า ปีศาจหมีจะไม่ใช่ตัวร้ายหลักใน The New Mutants แน่นอน พร้อมให้สัญญาว่า หนังเรื่องนี้จะเชื่อมโยงกับจักรวาลเอ็กซ์เมนด้วย

สตีเวน เทย์เลอร์ มหาเศรษฐีนักธุรกิจอุตสาหกรรม เป็นชายผู้มีทุกสิ่งทุกอย่าง ยกเว้นสิ่งที่เขาปรารถนามากที่สุด นั่นคือความรักและความซื่อสัตย์จากภรรยา เขาเป็นผู้ประสบความสำเร็จอย่างสูงในโลกการเงินของนิวยอร์ก และมองว่าภรรยาคือทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดของเขา แต่เธอต้องการมากกว่าแค่บทบาทเป็นเครื่องประดับที่แวววาว

โลกอนาคตอีก 400 ปีข้างหน้า เมื่อประชากรโลกถูกทำลายล้างจนเกือบหมดด้วยโรคร้าย เหลือแต่คนในเมืองเบรคน่า ซึ่งปกครองโดยคณะนักวิทยาศาสตร์ อิออน ฟลัคซ์ (ชาร์ลิซ เธอรอน) เธอคือสุดยอดมือสังหารของกลุ่มกบฏใต้ดิน “โมนิกัน” ซึ่งได้ถูกส่งตัวไปสังหาร เทรเวอร์ กู๊ดไชลด์ (มาร์ตัน โชแคส) ผู้นำของเมืองเบร็กน่า สังคมที่ดูเหมือนสมบูรณ์แบบแห่งโลกอนาคต เป็นสังคมที่ไร้เชื้อโรค ไร้ผู้คนหิวโหย และไร้สงคราม แต่เธอกลับได้ค้นพบความลับ ที่พลิกโฉมหน้าโลกใบนี้ไปอย่างคาดไม่ถึง

จอห์น เพรสตัน (คริสเตียน เบล) เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล ที่เชื่อมั่นในระบบการปกครองของรัฐที่ปิดกั้นเสรีภาพทางความรู้สึก โดยพลเมืองทุกคนต้องบริโภคยาโพรเซียม เป็นยาที่จะหยุดความรู้สึกอันจะนำมาซึ่งความสงบสุขบนโลก เขาได้รับมอบหมายให้ออกตามหาและจัดการลงโทษผู้ไม่ยอมบริโภคยาตัวนี้ด้วยความตาย แต่ทุกอย่างต้องมีอันเปลี่ยนไปเมื่อ จอห์นลืมบริโภคยาโพรเซียมทำให้เขาได้สัมผัสโลกใบใหม่ โลกที่เขาไม่อาจหันหลังกลับไปทางเดิมได้อีก

ชายคนหนึ่งที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จได้ค้นพบว่าเขาเป็นพ่อของเด็ก 533 คนจากการบริจาคเงินให้กับคลินิกการเจริญพันธุ์เมื่อ 20 ปีก่อน ตอนนี้เขาต้องตัดสินใจว่าจะเปิดเผยตัวตนหรือไม่เมื่อเด็ก 142 คนในจำนวนนั้นยื่นฟ้องเพื่อเปิดเผยตัวตนของเขา

ในนิวยอร์ก อดีตนักโทษ พีท คอสโลว์ ซึ่งมีความสัมพันธ์กับกลุ่มมาเฟียโปแลนด์ ต้องจัดการกับทั้งไคลเมกผู้เป็นนายพล เจ้านายที่ไร้ความปราณีของเขา และความทะเยอทะยานอันบิดเบี้ยวของเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางสองคน ขณะที่เขาพยายามเอาชีวิตรอดและปกป้องชีวิตของคนที่เขารัก

มาร่า แสดงเป็น เอมิลี่ ฮอว์กิ้นส์ หญิงสาวที่ต้องต่อสู้กับโรควิตกจริต หลังจากที่สามีของเธอ (ชานิ่ง ทาทัม) พึ่งได้รับการปล่อยตัวออกจากคุก เธอต้องกินยาและอยู่ในความควบคุมของแพทย์เฉพาะทาง (จูด ลอว์) เรื่องราวกลับพลิกผันเมื่อตัวยาที่เธอกินเพื่อบำบัดมีผลต่ออารมณ์ของเธอ แต่ก็ปรากฏศพปริศนาไม่รู้ที่มาซึ่งมีเธอเป็นผู้ต้องสงสัย การสืบสวนสอบสวนกลับพบเรื่องราวที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อน ทั้งยังเผยสัมพันธ์ลึกลับระหว่างมาร่าและแพทย์ประจำตัว มันเกิดจากผลข้างเคียงจากยาที่เธอกินไป

จอห์นแม็คลาฟลิน และ วิล จิเมโน สองตำรวจนิวยอร์คผู้ติดอยู่ในซากตึกเวิร์ดเทรด วันที่ 11 กันยายน 2001 เมื่อทั้งคู่ร่วมแรงร่วมใจต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด หลายเหตุการณ์ในวันที่คาดคิดไม่ถึงได้เกิดขึ้นผ่านสายตาของตำรวจคู่นี้, ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากของพวกเขา ผู้รอดชีวิต และหน่วยกู้ภัยในเมืองแห่งนี้

ในปี 1933 หลังจากออกจาก Dogville เกรซ มาร์กาเร็ต มัลลิแกนได้เห็นทาสคนหนึ่งถูกลงโทษที่ฟาร์มฝ้ายชื่อ Manderlay อย่างเป็นทางการ การค้าทาสถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และเกรซก็ลุกขึ้นต่อต้านชาวนา เธออาศัยอยู่กับพวกอันธพาลใน Manderlay และพยายามโน้มน้าวสถานการณ์ แต่เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยว เกรซก็มองเห็นความเป็นจริงทางสังคมและเศรษฐกิจของ Manderlay

เรื่องราวส่วนตัวอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความเข้มแข็งของครอบครัว และการแสวงหาความฝันแบบอเมริกันจากรุ่นสู่รุ่น